คำถามที่พบบ่อย

Dr.TAR ได้รวบรวม คำถาม คำตอบ ที่มักพบเพื่อให้ท่านได้ข้อมูลในการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ไปใช้

สะเก็ดเงินรักษาได้ด้วย Dr.TAR
สะเก็ดเงินรักษาได้ด้วย Dr.TAR

 

1. โรคสะเก็ดเงินคืออะไร?

ตอบ:  โรคสะเก็ดเงินคือ โรคผิวหนังที่เกิดจากการทำงานของเซลล์ผิวหนังที่เร็วมากเกินคนปกติที่เซลล์สร้างผิวหนัง ถึง 10-12 เท่า ทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดขึ้นมา นูนและดูเหมือนเป็น สะเก็ดสีเงิน

2. โรคสะเก็ดเงินรักษาหายขาดไม?

ตอบ:  โรคสะเก็ดเงินเกิดจากกรรมพันธ์ ไม่สามารถที่จะรักษาขาดได้ หากร่างกายคุณอ่อนแอ หรือ เครียด โรคนี้ก็จะกลับมาอีกครั้ง ฉนั้นการดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงิน ผู้ป่วยจะต้องดูแลตัวเอง ทั้งภายนอกและภายใน   ภายนอกดูแลตัวเองด้วยการใช้ แชมพู สบู่ ครีม น้ำมันดิน    ส่วนภายใน ให้ควบคุมเรื่องอาหาร การพักผ่อน ความเครียด   และให้เลี่ยง แอลกอฮอล บุหรี่ น้ำตาล แป้ง เนื้อวัว หมู  และ อื่นๆที่จะไปกระตุ้นให้โรคสะเก็ดเงินกลับมาอีก

3. โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคติดต่อไม?

ตอบ:  ไม่

4. ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันดินช่วยอะไรบ้าง?

ตอบ:  น้ำมันดินที่สกัดแบบพิเศษ  จะมีสารที่ช่วยในการฆ่าแบคทีเรีย และ หยุดเซลล์ผิวหนังที่เจริญเติบโตเร็วแบบผิดปกติ ทำให้เซลล์เติบโตช้าลง  จึงทำให้อาการคัน หายไปและ ค่อยๆทำให้ แผลดีขึ้น

5. ผลิตภัณฑ์น้ำมันดินของ Dr.TAR เทียบกับ ผลิตภัณฑ์น้ำมันดินทั่วไป หรือ โรงพยาบาลต่างกันอย่างไร?

ตอบ: ผลิตภัณฑ์น้ำมันดินของ Dr.TAR ใช้น้ำมันดินที่สกัดพิเศษ นำเอาสารที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง T cell ของผิวหนังเพื่อไม่ให้ผลิตเร็วจนเกินไป และ เข้าไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสะเก็ดเงิน ทำอาการคันและสะเก็ดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

6. ต้องใช้นานเท่าไหร่ถึงจะหาย?

ตอบ:  ไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่จะระบุนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะ การรักษาโรคสะเก็ดเงิน ค่อนข้างเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะผลิตภัณฑ์ที่รักษาคนหนึ่งได้ อาจจะใช้ไม่ได้กับอีกคน  ดังนั้น หากผู้ป่วยใช้อะไรที่ดีอยู่แล้ว ก็ใช้ต่อไป  ไม่ควรเปลี่ยน  แต่ถ้า ใช้แล้วไม่ดีขึ้น ก็ควรเปลี่ยน

7. สเตียรอยด์ ต่างกับ ผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ยังไร?

ตอบ:  สเตียรอยด์ เป็นยาสารพัดโรค รักษาอาการต่างๆ ได้เร็ว ทาวันนี้ พรุ่งนี้หาย ปัญหาคือ เมื่อคุณใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ร่างกายจะเริ่มดื้อกับ สเตียรอยด์  แล้วจะใช้ไม่ได้ผลอีก หากคุณหยุดก็จะเกิดอาการเห่ออย่างรุนแรง  แล้วถ้าใช้ต่อไปในระยะเวลานานจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ ภายในอวัยวะในร่างกายของคุณ ซึ่งเป็นอันตรายอาจถึงตายได้      ส่วนผลิตภัณฑ์ น้ำมันดินของ Dr.TAR เป็นส่วนผสมของน้ำมันดินที่สกัดมาเป็นพิเศษ ซึ่งใช้กรรมวิธีการสกัดแบบ  ธรรมชาติ ไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆกับร่างกายในการใช้ระยะยาว และ มีผลงานวิจัยจากต่างประเทศ และ ทั่วโลก ที่วิจัยแล้วว่า น้ำมันดินมีส่วนในการรักษาสะเก็ดเงินได้ดีมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

โทษของสเตียรอยด์□
สเตียรอยด์ ดี ร้าย อย่างไร

สเตียรอยด์สังเคราะห์เป็นสารที่มีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายทุกระบบ ดังนั้นการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่อันตราย เช่น
Responsive image

กดภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ติดเชื้อง่าย เป็นแผลที่ผิวหนังตามร่างกาย แขน ขา นิ้วมือ ทำให้แผลหายช้า บางรายแผลลุกลามทั่วร่างกายจนเกิดการติดเชื้อเข้าในกระแสเลือด และบางทีสเตียรอยด์อาจปิดบังอาการแสดงของโรคติดเชื้อ กว่าจะตรวจพบ เชื้อโรคก็ลุกลามรุนแรงมากจนทำให้เสียชีวิต
ทำให้เยื่อบุในกระเพาะอาหารบางลงและยับยั้งการสร้างเนื้อเยื่อกระเพาะ อาหารใหม่ อาจทำให้กระเพาะอาหารทะลุ หรือเลือดออกในกระเพาะอาหารโดยไม่มีอาการปวดท้องมาก่อน
ทำให้ ผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในช่วงปกติได้ จะมีระดับน้ำตาลสูง
ทำให้ผู้ป่วยความดันโลหิตไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในช่วงปกติได้ จะมีระดับความดันโลหิตสูง แต่ไม่มีอาการเตือน เป็นภัยเงียบที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก เสี่ยงเป็นอัมพฤต-อัมพาตได้
ทำให้กระดูกพรุน แตกหักง่าย ดังนั้น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไขกระดูก ผู้อยู่ในวัยทอง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรตรวจภาวะกระดูกพรุนหรือปรึกษาหมอก่อนใช้ยา
ทำให้อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อบริเวณแขน และขาไม่มีแรง จึงปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นผิดจังหวะหรืออาจหยุดเต้นได้
ยาหยอดตาที่ผสมสเตียรอยด์ ใช้ต่อเนื่องนานๆอาจทำให้เป็น ต้อหิน หรือทำให้เลนส์กระจกตาขุ่นเกิดเป็นต้อกระจก หรือทำให้เกิดติดเชื้อที่ตาได้ง่าย อาจถึงขั้นตาบอด ไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ควรไปให้หมอตรวจและสั่งยาให้ และต้องไปตรวจซ้ำตามหมอนัดทุกครั้ง เพื่อวัดความดันภายในลูกตาซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน
สเตียรอยด์ชนิดยาทาภายนอก หากใช้นานๆติดต่อกัน จะทำให้ผิวหนังบาง เส้นเลือดที่ผิวหนังแตกง่าย จะเห็นรอยแตกสีม่วงแดงตามผิวหนังที่หน้าท้องและต้นขา ผิวหนังมีลักษณะเป็นมัน อักเสบมีผื่นแดง บางรายอาจเป็นสิวเห่อขึ้นทั้งตัว
ทำให้ อารมณ์แปรปรวนง่าย การใช้สเตียรอยด์ในขนาดสูง จะทำให้เกิดอารมณ์เป็นสุข จึงทำให้ผู้ใช้ชอบใช้จนติดยา แต่ใช้ไปนานๆอาจพบอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากยาตามมาได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ หงุดหงิด เป็นต้น
การใช้สเตียรอยด์มากเกินขนาด จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “คุชชิ่ง ซินโดรม (Cushing Syndrome)” ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการใช้สเตียรอยด์ในปริมาณที่มาก มีลักษณะที่สังเกตุได้ คือ
ใบหน้ากลมคล้ายพระจันทร์
มีไขมันพอกที่ต้นคอ ด้านหลังเป็นหนอก
ผิวหนังบาง มีรอยแตกสีม่วงแดงตามผิวหนังที่หน้าท้องและต้นขา
มีข้อมูลทางวิชาการยืนยัน ว่าผู้ที่มีอาการถึงขั้น คุชชิง ซินโดรม จะมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตจากโรคไตสูงถึง 12 เท่า เสี่ยงต่อกระดูกหักจากกระดูกผุ 23 เท่า
เมื่อร่างกายได้รับสารสเตียรอยด์เป็นเวลานานร่างกายจะหยุดสร้างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติ ที่เคย สร้างเอง ดังนั้นเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันจะทำให้ร่างกายขาดสเตียรอยด์อย่างฉับพลัน อาจเกิดภาวะช็อก หมดสติและเสียชีวิตได้หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ดังนั้นหากสงสัยว่ากินสเตียรอยด์จากการซื้อมาเอง ไม่ใช่การรักษาโดยหมอ อย่าหยุดยาเอง ขอให้รีบไปปรึกษาหมอให้เร็วเพื่อหาทางลดยา

8. ผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ต้องใช้นานเท่าไหร่ถึงจะรู้ผล?

ตอบ:  โดยปกติ เราจะแนะนำให้ใช้ชุดแรก ก็จะรู้ผลแล้วว่า อาการโรคสะเก็ดเงิน จะไปในทิศทางดีขึ้นหรือไม่   ถ้าดึขึ้นก็ต้องใช้ต่อไม่ควรหยุด จนกว่าโรคสงบ จึงค่อยๆ ลด การใช้ลง

9. Dr.TAR มี 3 สูตร ต่างกันอย่างไร?

ตอบ:  สูตรแต่ละสูตร คือความเข้มข้นของ น้ำมันดินที่สกัดมาเป็นพิเศษ   การที่จะใช้ขนาดเท่าไหร่ขึ้นอยู่ กับ ผิว และ อาการของผู้เป็นโรคสะเก็ดเงิน  โดยปกติ เราจะแนะนำให้ใช้สูตร 1% ก่อน หลังจากการใช้แล้ว อาการเริ่มไปในทิศทางที่ดีจึงค่อยปรับ  เนื่องจาก สูตร 3% กลิ่นแรง และบางครั้ง ผู้ใช้ใหม่ๆ อาจจะไม่คุ้นกับกลิ่นจึงควรเริ่มจาก สูตร 1% ก่อน

10. เราจะรู้ได้ไงว่าควรใช้ Dr.TAR สูตรไหน และใช้กับส่วนไหนของร่างกาย?

สบู่น้ำมันดิน Dr.TAR

สูตรสำหรับหน้า เหมาะสำหรับผิวหน้าที่บอบบ้าง ฟองนุ่ม เนียน อ่อนโยนต่อใบหน้า
สูตร 0.5% เหมาะสำหรับ โรคผิวหนังทั่วไปเช่น กลาก เกลื้อน คันตามผิวหนัง สำหรับ ข้อพับ และ ผิวร่างกายส่วนที่บอบบาง และ เหมาะกับการใช้ต่อเนื่องสำหรับคนที่หายจากสะเก็ดเงิน
สูตร 1%  เหมาะ สำหรับ โรคสะเก็ดเงินบนผิวหนังระยะเริ่มต้น ใช้ตามร่างกายทั่วตัว
สูตร 3% เหมาะ สำหรับ โรคสะเก็ดเงินบนผิวหนังระดับมาก ใช้ส่วนขา แขน เท้า

สูตร 5%  เหมาะสำหรับ คนที่เป็นหนัก ลุกลามทั่วตัว  และเป็นมานาน

***ฟอกทิ้งไว้ 1-2 นาที แล้วล้างออก

แชมพูน้ำมันดิน Dr.TAR

สูตร 0.5% สูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับ คนที่เริ่มหายจากสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังบนหนังศรีษะ รังแค
 หรือ เซ็ปเดริมระยะเริ่มต้น ลดอาการคันศีรษะ และผมร่วงได้อย่างดี
สูตร 1% เหมาะสำหับ โรคสะเก็ดเงินบนศรีษะ พึ่งเริ่มเป็น
สูตร 3% เหมาะสำหรับ โรคสะเก็ดเงินบนศรีษะ เป็นเยอะกว่า 15% ของศีรษะ   หรือ ทั่วศีรษะ
***สระทิ้งไว้ 1-2 นาที ขึ้นอยู่กับอาการของสะเก็ด

ครีมน้ำมันดิน  Coal tar ointment

สูตร 0.5% เหมาะสำหรับ ผิวที่บอบบาง เช่น ผิวหน้า ข้อพับ อวัยวะเพศ
สูตร 1% เหมาะสำหรับ ร่างกาย ทั่วไป เช่น แขน ขา ศอก เข่า ตามตัว
สูตร 3% เหมาะสำหรับ คนที่เป็นมาก
*** ทาไว้ได้ตลอดเวลาเพื่อให้ความชุ่มชื้น และ น้ำมันดินจะเข้าไปช่วยรักษาเซลล์ผิวหนังคืนสู่ปกติ

11. เราจะรู้ได้ไงว่าเริ่มดีขึ้น หลังใช้ Dr.TAR?

ตอบ:  หลังจากใช้ Dr.TAR จะเริ่มสังเกตุได้ว่า สะเก็ดจะน้อยลง และ อาการคันจะน้อย หรือ หายไป บางเคสอาจจะมี ขาวๆ รอบแผล  ซึ่งเป็นเซลล์ผิวที่ตายแล้ว  และ เซลล์ผิวเริ่มผลิตเซลล์ใหม่แทนที่ มันออกเป็นสีชมพู และก็ค่อยๆ เป็นสีผิวปกติ

12. ทำไมแผลหลังหายจึงเป็นสีดำ และ ต้องรักษายังไง?

ตอบ:  เนื่องจากแผลที่เกิดจากสะเก็ดเงิน หลังจากหาย มักจะเป็นสีดำ  กรณีนี้จงดีใจได้เลยว่าคุณได้หายจากสะเก็ดเงินแล้ว และ ตรงที่เป็นสีดำนั้น ส่วนใหญ่ สะเก็ดเงินมักไม่ขึ้นซ้ำที่ตรงนั้น กรณีผิวสีดำนั้น ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพราะมันจะค่อยๆ หายไปเอง แต่ต้องใช้เวลานาน  Dr.TAR มีสบู่ลบรอยดำ ที่จะช่วยให้รอยดำหายได้เร็วขึ้น

13. Dr.TAR มีร้านค้าอื่นๆที่ไหนบ้าง?

ตอบ:  ทางเราไม่มีนโยบายเปิดร้านค้า เนื่องจากเราเน้นขายสินค้าทางออนไลน์เท่านั้น เพื่อทำให้ต้นทุนของสินค้าถูกกว่าการเปิดร้าน เพื่อทำให้ท่าน ซื้อสินค้าได้ในราคาที่ไม่แพง

14. กำลังรักษากับทางโรงพยาบาลหรือ คลีนิค จะใช้ผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ควบคู่ได้ไม?

ตอบ: ขอแนะนำว่าหากท่านกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาอาการสะเก็ดเงินอยู่ ขอให้ท่านกลับไปใช้ตามที่คุณหมอแนะนำก่อน หากอาการท่านดีขึ้น ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธี หรือ ไปลองอะไรใหม่  หากอาการท่านไม่ดีขึ้น ค่อยนำผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ไปลองใช้ดู โดยปกติ หากอาการเริ่มดีขึ้นจะต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ ภายใน 7-14 วัน หาก ใช้ไป 1 เดือน แล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า ผลิตภัณฑ์นั้น ไม่สามารถตอบโจทย์การรักษาให้ท่านได้  ก็ควรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพราะการรักษาสะเก็ดเงินเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ต้องหาผลิตภัณฑ์ที่เราใช้แล้ว รู้สึกว่าดีขึ้น

15. อาการสะเก็ดเงินดีขึ้นแล้วเมื่อไหร่จะหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ Dr.TAR ได้?

ตอบ: โดยปกติจะเริ่มเห็นผลที่ 7-14 วัน แต่ส่วนใหญ่ ภายใน 7 วันก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากเดิม ต้องใช้ต่อเนื่องจนโรคสงบ แล้วค่อยปรับสูตรลงมาให้ลดลงมา และแนะนำว่าควรใช้ตลอดไป เพื่อป้องกันการกลับมาของสะเก็ดเงิน  แต่ในระหว่างการรักษา ไม่ควรเปลี่ยนใช้อย่างอื่น

16. มีเก็บเงินปลายทางไม?

ตอบ:  ทางร้านเก็บค่าส่ง 100 บาทรวมค่าธรรมเนียมการเก็บเงินปลายทางแล้วครับ จะสั่งเท่าไหร่ก็ได้ เราคิดเหมาเพียง 100 บาท  สั่งครบ 5000 บาทฟรีค่าส่งครับ

17. ส่งของวันไหนบ้าง

ตอบ: ส่งของวันจันทร์ ถึง ศุกร์      หยุด เสาร์ อาทิตย์

กรณีมีการเปลี่ยนแปลงวันจะมีแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทาง Line OA

18. ระยะเวลาในการส่งสินค้า?

ตอบ:  ใช้เวลา 1-2 วันทำการ  ปกติโอนก่อน 10 โมงเช้า ส่งในวันเดียวกัน ถ้าอยู่ในกรุงเทพก็จะได้สินค้าวันถัดไป ต่างจังหวัดรับภายใน 2 วันทำการ (บางกรณีพื้นที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองอาจต้องรออีก 1 วันทำการ)

19. สั่งสินค้าแล้วจะได้รับของไหม?

ตอบ:  เราทำการค้าด้วยความสุจริต และ ยึดถึงคุณธรรมเป็นที่ตั้ง  ทุก order และ เงินทุกบาทที่ท่านจ่ายให้กับเรา เราถือเสมอว่าลูกค้าทุกท่านคือผู้ที่มีพระคุณที่เชื่อมั่นสินค้าของเรา ดังนั้น Dr.TAR การันตีทุก order ที่มีการโอนเงินชำระแล้ว จะได้รับสินค้าตามเวลาที่กำหนดแน่นอน 100%  หากกรณีไม่ได้รับภายใน 7 วันหลังจากท่านโอนเงิน  ไม่ว่าจะด้วยการส่งผิดพลาด หรือ ประการใด ทางเรายินดีรับผิดชอบเต็มจำนวน

20. คู่มือวิธีการใช้ ผลิตภัณฑ์ Dr.TAR

21. การใช้น้ำมันดิน เทียบกับการใช้ สเตอรอย ต่างกันอย่างไร

22.  กรณีหายจากสะเก็ดเงินแล้ว ควรดูแลร่างกายอย่างไรเพื่อไม่ให้สะเก็ดเงินกลับมาเป็นอีก

23. โทษของสเตียรอยด์

การใช้ครีม หรือ ยาทาน ที่มีส่วนผสมของสเตียรอย์ ลักษณธรูปครีมขาวๆ แต่งกลิ่น ในระยะแรกของการใช้จะเห็นผลได้เร็ว แต่พอใช้ไปนานๆ เริ่มไม่เห็นผล และสุดท้ายก็ไม่หาย หากท่านหยุดช้ก็จะเกิดอาการเห่ออย่างรุนแรง หรือใช้ไปต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในเรื่องระบบ ตับไต จะทำงานหนัก และอาจถึงตายได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ สเตียรอยด์ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้หาย แต่มันแค่ไปกดภูมิคุณ เท่านั้นเอง ซึ่งสเตียรอยด์หาซื้อได้ง่าย ตามร้านขายยา จะมาเป็นหลอด และ โรงพยาบาล คลีนิคต่างๆ มักจะให้ยา สเตียรอยด์สีขาวๆ แบบนี้ เป็นตลับ